Mari Mari Culture _01


รีวิว...มารี มารี (Mari Mari) หมู่บ้านวัฒธรรมของรัฐซาบาห์ (ตอนที่ 1)


Mari Mari Culture Village

จากที่ได้กล่าวไว้ในตอนที่แล้วว่าหลังจากที่ได้ลงไปทำงานอยู่บนแท่นประมาณสองสัปดาห์กว่าๆ  ก็เป็นอันว่าจบโปรเจ็ค..ปิดจ๊อบและก็ได้เวลากลับเข้าฝั่ง

    วันกลับขึ้นฝั่งครั้งนี้ก็ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ( 17 NOV 2014)  ซึ่งก็เป็นวันหยุดราชการของมาเลฯ  ก็เลยทำให้พาสปอร์ตที่ส่งเข้าไปเพื่อทำเรื่องขอวีซ่าทำงานติดค้างอยู่ที่ออฟฟิศตรวจคนเข้าเมืองและทำให้ไม่สามารถบินออกจากมาเลเซียในวันนี้ ดังนั้นลูกค้าก็เลยต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลยโดยการจัดโรงแรมที่พักให้และทำการเปลี่ยนตั๋วให้บินกลับในวันถัดไปแทน

    การเลื่อนตั๋วออกไป 1 วัน ก็เลยทำมีเวลาว่างเกือบทั้งวัน...ดังนั้นผมก็เลยตัดสินใจเดินทางไปยังจุดหมายที่เคยพลาดเมื่อครั้งก่อน นั่นก็คือ Mari Mari culture village   หรือหมู่บ้านวัฒนธรรม มารี่ มารี่


ต่อเนื่องจากเรื่องเล่าสองตอนที่ผ่านมา:


  • ประวัติโดยย่อๆ   ( Mari Mari  ภาษามาเลย์ มีความหมายในภาษาอังกฤษว่า common หรือ มานี่ มานี่) 

      Mari Mari  เป็นสถานที่ท่องเที่่ยวหรือแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโปรแกรมทัวร์สำหรับผู้คนที่มาเยือนเมืองโคตะคินาบาลู (Kota Kinabalu) ....หมู่บ้านวัฒนธรรมนี้ตั้งอยู่ลึกลงไปในชนบท ..โดยอยู่ห่างจากตัวเมือง Kota Kinabalu ประมาณ 25 นาที.... หมู่บ้านนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาวัฒนธรรมชาติพันธุ์ดั้งเดิมของชาวเกาะบอร์เนียว

     โดยมีจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือเพื่อแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับประวัติ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ และวิธีชีวิตของชาวเกาะบอร์เนียว ในวันเก่าๆเมื่อครั้งสมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าและยังไม่มีการพัฒนาเหมือนในยุคปัจจุบัน

    ในการทัวร์ครั้งนี้ท่านจะได้สัมผัสกับกลิ่นไอและวัฒนธรรมเก่าๆของชนเผ่าเจ้าของพื้นที่ดั้งเดิมที่อยู่อาศัยในแถบนี้มาก่อน ซึ่งประกอบด้วยเผ่าต่างๆดังนี้  ชนเผ่าชาวนาหรือที่เรียกว่า  Kadazan-Dusun    ชนเผ่า Rungus ที่อาศัยอยู่ในบ้าน long  house   นักล่าและชาวประมงที่เรียกว่า Lundayeh, Cowboy และ Sea gypsey ที่เรียกว่า Bajau และ Murut  ซึ่งเป็นเผ่านักล่าหัวคนที่น่าเกรงกลัว ( headhunting Murut)     ซึ่งก็ได้พาท่านเดินเที่ยวชมไปด้วยกันดังต่อไปนี้


  • เริ่มต้นทัวร์

สถานที่แห่งนี้จะจัดทัวร์เป็นรอบ    คือรอบสิบโมงเช้า บ่ายสองโมง และรอบหกโมงเย็น(รอบนี้ไม่ค่อยมีคนและไม่ค่อยได้จัด)  โดยมีค่าใช้จ่าย 80 ริงกิต(800 บาท)รวมค่าอาหารกลางวันซึ้งเป็นแบบบุฟเฟ่ 



แผนที่ของ Mari Mari Culture Village 


 เริ่มต้นทัวร์  => เดินทางข้ามลำธารเข้าสู่หมู่บ้านชนเผ่านด้วยสะพานแขวน
เริ่มต้นทัวร์  เดินข้ามสะพานข้ามลำธาร เข้าสู่หมู่บ้านวัฒนธรรม 




  • จุดแรก (หมายเลข 2 ตามแผนที่ )  => ดูซูน-ชนเผ่าชาวนา (Kadazan-Dusun ) 

สถานีแรก ( หมายเลข 2 ตามแผนที่)  ซึ่งเป็นบ้านจำลองวิถีชีวิตของชาว DUSUN

***  ดูซูนนี้เป็นจัดว่าเป็นชนเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในรัฐซาบาห์

บริเวณหน้าบ้าน : รูปซ้ายมือ คือยุ้งสำหรับเก็บข้าวซึ่งได้จากการเก็บเกี่ยวและเก็บไว้บริโภค , ขวามือคือกระโหลกศรีษะของขโมยที่มาขโมยข้าวแล้วถูกจับได้ ซึ่งก็จะถูกจับตัดหัวแขวนไว้บนขื่อของยุ้งข้าว เพื่อขู่ประจานเพื่อไม่ให้คนอื่นทำตามแบบอย่าง

    บนบ้านก็จะมีการจัดแสดงเรื่องราวและชีวิตความเป็นอยู่ของคนเผ่านี้ รวมถึงน้องนอน ห้องครัว+การรักษาและการถนอมอาหาร 

   ไฮไลน์ของจุดนี้ก็คือการสาธิตการทำไวน์จากข้าวซึ่งเรียกว่า Rice Wine  และมีไวน์ตัวอย่างรินใส่ถ้วยที่ทำจากกระบอกไม่ใผ่ให้ได้ชิมกันแบบสดๆ  ( ณ จุดนี้ผู้เขียนก็ไม่พลาด  ก็หวดไป 2-3 จอก พอเป็นกษัย..55)



มีการสาธิตการทำอาหารจากกระบอกไม้ใผ่  Bamboo Cooking




สาธิตการการกลั่นไวน์   พร้อมทั้งให้ชิมรสชาติเพื่อเปรียบเที่ยวกันระหว่างไวน์ที่ผ่านการกลั่นแล้วกับไวน์ที่ไม่ได้   ว่าอันไหนรสชาติดีกว่ากัน



การหาน้ำผึ้งป่า พร้อมทั้งตัวอย่างให้ชิม




  • จุดที่ 2 (หมายเลข 3 ตามแผนที่ )  -  Rungus Longhouse
 Rungus  เป็นชนเผ่ากลุ่มย่อยของ Kadazan-Dusun  ที่มุ่งเน้นการอยู่ร่วมแบบหลายครอบครัวภายใต้หลังคาเรีอนเดียวกัน    โดยผูัที่อยู่ห้องลำแรกของเรีอนจะเป็นผู้นำในกลุ่มนั้นๆ


คนเผ่านี้จะสร้างบ้านเป็นแบบทรงยาว เพื่ออยู่กันเป็นกลุ่มหลายครอบครัว  บรรใดก็จะทำจากต้นไม้แล้วบากเป็นขั้นบันใดและเมื่อถึงเวลากลางคืนก็จะชักบันใดขึ้นเก็บไว้บนบ้านเพื้อป้องกันผู้มาบุกรุกหรือคนนอกขึ้นบ้าน
ภาพภายในบ้าน 
เครื่องใช้  และ เครื่องประดับสำหรับสตรี 
ภายในบ้านหลังนี้นอกจากจะมีการแสดงสภาพความเป็นอยู่ทั่วๆไปแล้วยังมีการสาธิตการจุดไฟแบบโบราณๆโดยใช้ไม้มาขัดถูกัน และ บางรอบก็จะมีการแสดงดนตรีที่เครื่องดนตรีต่างๆนั้นทำมาจากไม้และไม้ใผ่






  • จุดที่ 3 (หมายเลข 4 ตามแผนที่ )  -  Lundayeh House หรือ Lun Bawang
         Lun Bawang  คือชนกลุ่มเล็กที่สามารถพบได้บริเวณภาคกลางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว  ตามพื่นที่ต่างๆเช่น บริเวณพื้นที่สูงตอนเหนือของเกาะกาลิมันตัน  อำเภอ Temburong ของบรูไน บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐซาบาห์ และ ภาคเหนือของรัฐซาราวัก

       วิธีชีวิของคนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตคล้ายคนชนบทชาวมาเลทั่วไป  บานมีระเบียง มีครัวแบบเปิด (เวลาจะทำครัวก็จะมีไม้ค้ำเปิดหน้าต่างให้ควันไฟออกไปด้านนอก)  มีการตะกร้า เลี้ยงไก่ นก และหมู และเป็นนักล่าสัตว์หาปลา

ตัวอย่าบ้าน 

รูปสาวโสด....สร้อยลูกปัดคาดอยู่ศรีษะจะเป็นสัญลักษณะบ่งบอกให้รู้ว่านี่คือสาวโสด
ห้องนอนสาวโสดจะอยู่ชั้นบนโดยมีห้องนอนผู้ปกครองอยู่ด้านล่างและเมื่อถึงเวลานอนพ่อแม่ก็จะชักบันใดออกเพื่อป้องกันไม่ให้สาวเจ้าลงมาด้านล่าง หรือกันชายแปลกหน้าย่องเบาขึ้นห้องสาวโสด

หากมีการปวดฉี่เวลากลาคืน   สาวก็จะเคาะปลุกให้พ่อแม่พลาดบันใดลงไปปลดทุกข์ให้ .... ซึ่งถ้าหากเรียกแล้วไม่มีใครตื่น บางครั้งพ่อแม่ก็อาจถูกรดพรมด้วยน้ำฝนจากสาวโฉด (ไกด์เขาเล่าให้ฟังเช่นนี้  )

ผู้ชายของชนกลุ่มนี้จะแต่งตัวหล่อเป็นพิเศษ  จะมีโล่ไม้แกะสลักสวยงาม มีมีดดาว มีมงกุฏเขาสัตว์  มีผ้าสีสรรสวยงามพันแขน และมีเสื้อกั๊กที่ทำจากเยื่อไม้ ( ตัวที่นักท่องเที่ยวสวมใส่โชว์อยู่) ดังรูป

การแต่งตัวของผู้ชายประจำเผ่า... ก็จะมีโล่ มีมีดดาบ และมีเสื้อกั๊กที่ทำมาจากเยื่อไม้ ( ตัวที่นักท่องเที่ยวใส่ถ่ายรูปอยู่)  


***  รูปภาพและเนื้อหายังเหลืออีกค่อนข้างเยอะสมควร   ดังนั้นจึงขอพักตอนที่ 1 นี้ไว้เพียงแค่นี้ก่อน   ซึ่งจะกลับมาเล่าให้ฟังในตอนถัดไปครับ


*** ลิงค์ ...รีวิว...มารี มารี (Mari Mari) หมู่บ้านวัฒธรรมของรัฐซาบาห์ (ตอนที่ 2)



No comments:

Post a Comment